วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

หัดเขียนรีวิวมังงะครั้งแรก

   โย่ว สวัสดีทุกท่าน หายไปสองวัน วันนี้ก็ได้ฤกษ์ขยันมาอัพบล็อกบ้างละ 555+

วันนี้จะอัพเรื่องการเขียนรีวิวมังงะครั้งแรก

ทำไมถึงเขียนน่ะเหรอ ?

ก็เพราะไปเห็นในเว็บ Jobthai เปิดรับสมัครคนเขียนรีวิวมังงะกับนิยาย เป็น freelance อยู่น่ะ

ตามลิงค์นี้ http://www.jobthai.com/job/0,688169.html

เงื่อไขคือต้องเขียนไม่ต่ำว่าเรื่องละ 500 คำ จ่าย 50 บาทต่อ 1 รีวิว

จะรวบรวมจ่ายให้เมื่อยอดรีวิวครบ 50 เรื่องต่อเดือน

เดือนไหนไม่ครบจะเอาไปทบในเดือนถัดไป แต่ก็จะจ่ายให้ไม่เกินเดือนละ 50 รีวิว

คือ ได้เดือนละ 2500 นั่นแหละ ถ้าทำตรงตามเงือนไขอ่ะนะ

ทีนี้เราก็ปิ๊งขึ้นมาว่าเห้ย น่าลองดูว่ะ

ก็เลยกลายมาเป็นรีวิวฉบับนี้แล

เอาล่ะเพื่อไม่ให้เสียเวลาอ่านอินโทรมากเกินไป (รึเสียไปเยอะแล้ว แต่เราก็ไม่แคร์ 555+) เรามาเริ่มกันดีกว่า

จะจ่างงงง ภาพมาโลดดดด



ชื่อเรื่อง: [TH] คิริวอิน คายะ งานง่ายๆ แค่ให้หนูดูดเลือด
               [JP] Kiryuin Kaya ni Chi wo Suwarerudake no Kantan na Oshigoto

คิริวอิน คายะ งานง่ายๆ แค่ให้หนูดูดเลือด เล่ม 1-3 (จบ)
            ผลงานเรื่องสั้นสามเล่มจบของอาจารย์ซังโชคุ อามิโดะ ลิขสิทธิ์โดย รักพิมพ์ แนวเรื่อง Love Comedy ผสม Action เลือดสาดนิดๆ แต่นอกเหนืออื่นใดเมื่อดูจากชื่อเรื่อง และภาพหน้าปกแล้ว เซอร์วิสสาวๆ ในเรื่องจัดหนักจัดเต็มชัวร์
มังงะเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ ทาดาโยชิ เด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่ในโบสถ์แห่งหนึ่งของเมืองซากุระมินาโตะ โดยมีซิสเตอร์สาวคนหนึ่งคอยดูแลทาดาโยชิ และเด็กกำพร้าคนอื่นๆ ปกติทาดาโยชิจะไปเรียนและทำงานพิเศษเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือเด็กๆ เป็นประจำ แต่วันหนึ่งมีสัตว์ประหลาดเข้ามาทำร้ายทาดาโยชิ จนตัวเองคิดว่าต้องจบชีวิตเพียงเท่านี้แล้วหรือ ทันใดนั้นได้มีเด็กสาวเข้ามาช่วยทาดาโยชิไว้ เธอคือ คิริวอิน คายะ ซึ่งเป็นคุณหนูรุ่นที่ 8 ในกลุ่มผีดูดเลือดตระกูลคายะ และพูดกับทาดาโยชิว่า นายน่ะ มาเป็นเหยื่อของฉันซะโดยให้คายะดูดเลือดเพื่อให้สามารถใช้พลังของผีดูดเลือดได้ ถึงตอนแรกทาดาโยชิจะไม่ยินดีด้วย แต่เมื่อมีเหตุการณ์ที่คนฝ่ายโบสถ์ซึ่งเป็นนักล่าผีดูดเลือดมาโจมตีคายะและเด็กๆ ที่โบสถ์ ทาดาโยชิทนดูไม่ได้จึงยอมให้คายะดูดเลือด ทำพันธสัญญาเป็นเหยื่อของคายะ โดยย้ายไปอาศัยอยู่กับตระกูลคายะแทน เพราะตัวเองกลายเป็นศัตรูของฝ่ายโบสถ์ไปแล้ว หลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทาดาโยชิ และคายะ ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
เรื่องราวดำเนินไปด้วยการตามล่ากวาดล้างผีดูดเลือดของฝ่ายโบสถ์ กับตระกูลคายะ โดยทาดาโยชิ และคายะต้องต่อสู้ฟันฝ่าไปด้วยกันพร้อมกับคนในตระกูล นอกจากนี้ยังมีเรื่องขัดแย้งระหว่างผีดูดเลือดกับการใช้มนุษย์เป็นเหยื่อดูดเลือดจนหมดตัวอย่างอนาถ มาทดสอบจิตใจของทาดาโยชิอีกด้วย และยังมีฉากแอกชั่นแนวเซอร์วิสของสาวๆ ในเรื่อง สู้กันจนเสื้อผ้าขาด เผยให้เห็นทั้งหน่มน้มและแพนตี้ พร้อมทั้งตัวหนังสือแห่งศีลธรรม อีกทั้งยังมีสกิลหกล้มของพระเอก ที่เซอร์วิสสาวๆ ให้ผู้อ่านเห็นอยู่บ่อยๆ ในเรื่อง แม้ว่าจะมีเพียงสามเล่มจบก็ตาม จนทำให้คิดว่ามันเยอะเกินพอดีไปหน่อย

โดยรวมแล้วเรื่องภาพ การออกแบบตัวละครทำได้ดี ภาพสวย เซอร์วิสเยอะ เรียกได้ว่าจุใจคนชอบแนวนี้เลยทีเดียว ส่วนเนื้อเรื่องก็สนุกใช้ได้ แต่ฝ่ายตรงข้ามพระเอก (ฝ่ายโบสถ์) มีบางครั้งที่พลาดท่าง่ายๆ เสียเองแม้ว่าจะไล่ต้อนฝ่ายพระเอกจนมุมแล้วก็ตาม ซึ่งถือว่ายังเป็นปัญหาสำหรับผลงานแนวแอกขั่นหลายๆ เรื่อง ที่จะหาทางออกให้กับฝ่ายพระเอกที่กำลังพลาดท่าอยู่อย่างไรดี ถ้าไม่คิดอะไรมาก มังงะเรื่องนี้ถือว่าสนุกใช้ได้ แถมด้วยเซอร์วิสกระจาย สำหรับคนชอบมังงะแนวเซอร์วิสเป็นชีวิตจิตใจแล้วล่ะก็ ไม่ผิดหวังแน่นอน 


อ่าห์ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พอได้มั้ย แก้แล้วแก้อีก กินเวลานานพอสมควร 

ก็อย่างว่าแหละนะ ทุกอย่างมันยากตรงเริ่มต้นนี่แหละ 

เราเชื่อว่า ฝักบ่อยๆ เดี๋ยวก็คล่อง อีกทั้งยังช่วยฝึกสมองให้คิดอยู่เรื่อยๆ ด้วย 

ไม่ใช้มันมากๆ เดี๋ยวมันก็จะฝ่อ 555+

เอาล่ะ วันนี้ ขอลาไปก่อน จนกว่าจะพบกันใหม่ 

บ๊ายบี ฝันดี 


วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557

กับข้าวง่ายๆ มันๆ เลี่ยนๆ กับวันหยุดยาวสุดสัปดาห์


ยุดสุดสัปดาห์สี่วันนี้ เพื่อนๆ ทำอะไร ไปไหนกันบ้างเอ่ย?

ส่วนผมนั้นไม่ได้ไปไหน อยู่แต่บ้าน ประหยัดดี 555+

ตื่นมาแต่เช้าก็ต้องมาทำกับข้าวให้น้อง และท่านพ่อ เพราะท่านแม่ไม่อยู่

วันนี้ก็เลยแชร์เมนูง่ายๆ แสนง่าย ที่แม้แต่เด็กประถมก็ทำได้ (ถ้าไม่กลัวน้ำมันกระเด็นใส่)

ไม่ต้องบรรยายอินโทรมาก เอาภาพมาโลด

จะจ๊างงงงง!!



ซี่โครงหมูทอดกระเทียมพริกไทย

 

ส่วนผสมก็ง่ายๆ มีซี่โครงหมู แล้วก็ซอสปรุงรสเท่าที่มีในครัว

ปกติที่บ้านก็หมักกันแค่นี้แหละ ใส่น้ำปลาอย่างเดียว ทิ้งไว้แป๊บนึงแล้วทอดเลย

แต่ผมมันชอบความแตกต่างไปจากปกติธรรมดาที่ท่านแม่ทำให้กินบ่อยๆ

เลยใส่พริกไทยดำบด แล้วก็ซีอิ๊วขาว กับนมสดที่ไปจิ๊กของน้องมา (ยังไงน้องมันก็ไม่ค่อยกินอยู่ละ)

ก็หมักไปไม่รู้กี่นาทีไม่ได้จับเวลา เอาเป็นว่าประมาณครึ่งชัวโมงละกัน

ระหว่างนั้นก็ทำผัดผักของถนัด ที่ผัดมันแทบทุกวันไป

เสร็จแล้วก็มาโขลกกระเทียมใส่ครก ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน พอร้อนได้ที่ก็เทกระเทียมใส่

พอเหลืองก็ตักขึ้นมาพักไว้ก่อน

จากนั้นก็จัดการทอดหมูซะ เช่นเดียวกัน พอได้ที่ก็ตักใส่จานเสิร์ฟ โรยด้วยกระเทียม และผักชีสามใบ

หน้าตาก็ดูโอเคอยู่ เพิ่งเคยใช้นมสดหมักหมูครั้งแรก รู้สึกได้เลยว่ามันนุ่มขึ้นจริงๆ

ทำให้จิตวิญญาณนักวิทยาศาสตร์เข้าครอบงำ อดสงสัยไม่ได้ว่า การใส่นมเพื่อหมักเนื้อ

มันมีกลไกอะไรที่ทำให้เนื้อนุ่มขึ้นมาได้

เพื่อนๆ พอจะทราบบ้างมั้ยครับ ลองเอามาแชร์กันหน่อย

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่อ่านจนมาถึงบรรทัดนี้นะครับ

สำหรับวันนี้ไปก่อนละ ไว้พบกันใหม่ บ๊ายบุยยย